เบญจรงค์ (ธนโกเศศ) แฉ่งฉวี (พ.ศ. ๒๔๖๑-๒๕๖๕)

เบญจรงค์ (ธนโกเศศ) แฉ่งฉวี (พ.ศ. ๒๔๖๑-๒๕๖๕)

เบญจรงค์ (ธนโกเศศ) แฉ่งฉวี

(พ.ศ. ๒๔๖๑-๒๕๖๕)

 

ครูเบญจรงค์  ธนโกเศศ มีนามเดิมว่า “เติม” เป็นบุตรีคนโตของ นายเตียง และนางทองอู่ ธนโกเศศ  เกิดที่บ้านใกล้วัดใหม่อมตรส ตำบลบางขุนพรหม กรุงเทพมหานคร เมื่อวันเสาร์แรม ๑๕ คำ เดือน ๑๐ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๔๖๑ มีน้องสาวร่วมบิดามารดาชื่อ เติบ ไม่เล่นดนตรี และมีน้องชายชื่อ อุดร ชำนาญในด้านปี่พาทย์  ได้เปลี่ยนชื่อจาก  เติม  มาเป็นเบญจรงค์  ในสมัยที่รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ปฏิวัติวัฒนธรรมไทย  

เริ่มเรียนหนังสือพออ่านออกเขียนได้ที่บ้าน  แล้วเข้าเรียนต่อในโรงเรียนพร้อมวิทยามูล  จบชั้นมัธยมปีที่ ๓ ระหว่างที่เรียนหนังสือก็หัดสีซอด้วง ซออู้ และตีขิม  เนื่องจากครูเตียงผู้เป็นบิดาเป็นครูสอนเครื่องสายที่มีชื่อเสียงมาก และคุณแม่ทองอู่ ก็เป็นนักร้องจึงคุ้นเคยกับเสียงดนตรีไทยมาแต่เล็ก  และในละแวกบ้านที่อยู่นั้น  ก็แวดล้อมไปด้วยศิลปินเพลงไทย อาทิ บ้านหลวงไพเราะเสียงซอ (อุ่น ดูรยชีวิน) บ้านครูละเมียด จิตตเสวี  บ้านครูปลั่ง  บ้านครูไปล่ วนเขจร ฯลฯ  

ครูคนแรกที่จับมือให้เรียนซอด้วง คือ ครูไปล่ วนเขจร  ซึ่งครูเบญจรงค์ เรียกว่า ” อาไปล่ ” เพราะสนิทสนมกับบิดามาก  เมื่อสีซอด้วงเพลงจระเข้หางยาวได้แล้ว ก็ต่อเพลงไอยเรศ สี่บท บุหลัน ฯลฯ ครั้นเริ่มมีฝีมือดี ได้ต่อซอด้วงทางเดี่ยวจากครู ปลั่ง วนเขจร  ซึ่งได้ต่อทางเดี่ยวให้ทุกเพลงถึงเดี่ยวกราวใน และได้ต่อเดี่ยวซอด้วงเพิ่มเติมพร้อมด้วยเดี่ยวซออู้เพลงแขกมอญ จากหลวงไพเราะเสียงซอ (อุ่น ดูรยชีวิน) ในตอนหลัง 

นอกจากจะเล่นเครื่องสายได้คล่องและจำเพลงแม่นแล้ว  ยังได้ต่อทางร้องกับครูละม่อม อิศรางกูร ณ อยุธยา  ครูเชื้อ นักร้อง  และเรียนเพิ่มเติมจากครูท้วม ประสิทธิกุลอีกเป็นบางเพลง  จึงมีความสามารถทั้งในด้านการบรรเลงและขับร้อง  

ชีวิตราชการ เริ่มทำงานเป็นเสมียนกรมที่ดิน สมัยนายเสริม สาริคุปต เป็นเลขานุการกรม และได้เริ่มก่อตั้งวงเครื่องสายกรมที่ดินเป็นครั้งแรก รับราชการอยู่กรมที่ดินได้ ๘ ปี แล้วย้ายมาอยู่องค์การเชื้อเพลิง โดยนายฉันทิชย์ กระแสสินธุ์ ได้ชักชวนให้มาช่วยกันตั้งวงดนตรีไทยขององค์การเชื้อเพลิง ทำงานอยู่ที่นี่อีก ๒ ปี ก็ย้ายไปทำงานที่ธนาคารออมสิน เป็นเวลา ๒๐ ปีเศษ จึงเกษียณอายุ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๒  

ชีวิตครอบครัว ได้สมรสกับ เรือเอกชิต แฉ่งฉวี ร.น. นักดนตรีเอก ศิษย์ครูเจือ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา  มีบุตรีด้วยกันทั้งสิ้น ๕ คน ชื่อ กัลยา  ปราณี  อุสา  ผกา  และเบญจวรรณ  

ครูเบญจรงค์  ธนโกเศศ  ได้ชื่อว่าเป็นนักสีซอด้วงผู้แม่นเพลง  สีซอยืนหยัดเป็นหลักของวงได้อย่างแน่วแน่มั่นคง  เสียงซอดี  มีรสมือ  ได้เสียงชัดเจนแจ่มแจ้ง  ในชีวิตเคยร่วมวงเครื่องสายกับนักดนตรีเอก ๆ มามาก เช่น ร่วมวงกับครูเจือ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา  ครูพุฒ นันทพล  ครูประพาส สวนขวัญ  เป็นผู้ร่วมก่อตั้งวงดนตรีไทยของกรมที่ดิน และองค์การเชื้อเพลิง  เป็นนักดนตรีประจำวงเสริมมิตรบรรเลง  เป็นเจ้าของวงดนตรีคณะบางขุนพรหมใต้  และวงมิตรบรรเลง  เคยอัดเสียงเดี่ยวซอด้วง เพลงกราวใน กับห้างแผ่นเสียง ต. เง็กชวน  และมีผลงานเพลงเดี่ยวต่าง ๆ หลายเดี่ยว บันทึกเสียงไว้กับ นายแพทย์พูนพิศ อมาตยกุล  ได้เคยช่วยครูชิต ผู้สามี ประดิษฐ์ทางขับร้องเพลงที่ครูชิตแต่งไว้หลายเพลงด้วยกัน  

ในตอนปลายอายุราชการ  ก่อนเกษียณอายุไม่กี่ปี  ครูได้แยกทางกับสามี  มาปลูกบ้านใหม่อยู่ที่ตำบลบางยี่ขัน  พร้อมด้วยลูก ๆ ทั้ง ๕ คน เมื่อเกษียณอายุแล้ว วิทยาลัยนาฏศิลป กรมศิลปากร ได้เชิญเป็นอาจารย์พิเศษ สอนเครื่องสาย  

ครูเบญจรงค์เคยสอนดนตรีในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมัยที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ทรงศึกษาอยู่ที่คณะอักษรศาสตร์ ได้เคยต่อซอด้วงถวาย  ครูเบญจรงค์มีศิษย์มากทั้งจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  และวิทยาลัยนาฏศิลป

ครูเบญจรงค์ ธนโกเศศ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ สิริอายุรวม ๑๐๔ ปี

พูนพิศ อมาตยกุล 

(เรียบเรียงจาก คำให้สัมภาษณ์ของ ครูเบญจรงค์  ธนโกเศศ)

ที่มา : นามานุกรมศิลปินเพลงไทย ในรอบ 200 ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยพูนพิศ อมาตยกุล, หัวหน้าโครงการ ; ผู้ร่วมโครงการ, พิชิต ชัยเสรี …[และคนอื่น ๆ].  กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๒๖.