จ่าง แสงดาวเด่น (ไม่ทราบปีที่เกิด และปีที่ถึงแก่กรรม)

จ่าง แสงดาวเด่น (ไม่ทราบปีที่เกิด และปีที่ถึงแก่กรรม)

จ่าง แสงดาวเด่น

(ไม่ทราบปีที่เกิด และปีที่ถึงแก่กรรม)

 

นายจ่าง แสงดาวเด่น เป็นนักดีดจะเข้ ฝีมือดีมากที่สุดคนหนึ่งของวงเครื่องสายหลวงในสมัยรัชกาลที่ ๖ และรัชกาลที่ ๗ เป็นศิษย์ของหลวงว่องจะเข้รับ (โต กมล วาทิน) เป็นผู้มีความมุมานะ อดทน และขยันซ้อมเพลง ต่อเพลงอยู่เสมอ ปกติจะตื่นตั้งแต่ตี ๔ แล้วท่องเพลงที่ต่อมาจนสายทุกวัน ได้ชื่อว่าเป็นนักดนตรีดีดจะเข้ยอดเยี่ยมเพราะความขยันเป็นปัจจัยสำคัญ ไม่สู้จะมีความคิดพลิกแพลงเป็นส่วนตัว แต่เป็นคนแม่นเพลงมาก ความสามารถของท่านได้รับการยกย่องให้เข้าไปสอนจะเข้ให้แก่วงมโหรีหญิง ในรัชกาลที่ ๗ 

นายจ่างมีความเชื่อมั่นว่า การดีดจะเข้ที่ดีจะต้องดีดด้วยความแรงและได้เสียงชัดจะแจ้งทุกเสียงไป ไม่ใช่ดีดเบาๆ เอาแต่ความเร็วอย่างเดียว ดังนั้นจะเข้คู่มือของท่านจึงหนักและใช้สายโต เหนียว ต้องกำลังมากเวลาดีด ไม่ว่าจะเป็นท่านั่งการวางมือดีดและการใช้นิ้ว ท่านพิถีพิถันเอาจริงเอาจังมาก จึงเป็นผู้ได้รับคำชมเชยว่า ท่าสวยเวลาดีดจะเข้ ได้เพลงเดี่ยวจะเข้หมดทุกเพลง ในตอนท้ายกล่าวกันว่า ฝีมือและกำลังดีกว่าหลวงว่องจะเข้รับผู้เป็นครู 

ศิษย์ของนายจ่าง แสงดาวเด่น คนสำคัญคือ คุณระตี วิเศษสุรการ และคุณเทพี เศวตนาถ (ธิดาของพระยาทรงสุรเดช) ได้ต่อเพลงเดี่ยว แขกมอญ มุล่ง กราวใน และเพลงเดี่ยวอื่นๆ ไว้มาก 

นายจ่างซ้อมเพลงหนักหามรุ่งหามค่ำ เนื่องจากเป็นคนผอมบางอยู่แล้ว จึงเชื่อกันว่า ซ้อมหักโหมมากจนเป็นฝีในท้อง ท่านถึงแก่กรรมด้วยวัณโรคปอด เมื่ออายุได้ ๓๐ ปีเศษ และเป็นโสดมาตลอดชีวิต

 

พูนพิศ อมาตยกุล 

(เรียบเรียงจากการสัมภาษณ์อาจารย์มนตรี ตราโมท และคุณครูระตี วิเศษสุรการ)

ที่มา : นามานุกรมศิลปินเพลงไทย ในรอบ ๒๐๐ ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยพูนพิศ อมาตยกุล, หัวหน้าโครงการ ; ผู้ร่วมโครงการ, พิชิต ชัยเสรี …[และคนอื่น ๆ].  กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๒๖.