ตอนที่ 131 เพลงแจ๊สระยะแรกเริ่มของประเทศไทย ตอนที่ 3 เพลงสวิงและเพลงอื่นๆ ตอนที่ 131 เพลงแจ๊สระยะแรกเริ่มของประเทศไทย ตอนที่ 3 เพลงสวิงและเพลงอื่นๆ ชื่อเพลง : เพลงเหมันต์สวิง ผู้ขับร้อง : จันทนา โอบายะวาทย์ วงดนตรี : วงดนตรีสุนทราภรณ์ ชื่อเพลง : เพลงสายฝนสวิง ผู้ขับร้อง : เพ็ญศรี พุ่มชูศรี ผู้ประพันธ์ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช วงดนตรี : วงดนตรีสุนทราภรณ์ ชื่อเพลง : เพลงเกลือจิ้มเกลือ ผู้ขับร้อง : เพ็ญแข กัลย์จาฤก และอุโฆษ จันทร์เรือง วงดนตรี : วงดนตรีกรุงเทพสวิง ชื่อเพลง : เพลงเกี้ยวผิด ผู้ขับร้อง : บุญเลิศ เสมาชัย และชวลี ช่วงวิทย์ วงดนตรี : วงดนตรีกรุงเทพสวิง ชื่อเพลง : เพลงไร้อาวรณ์ วงดนตรี : วงดนตรีสุนทราภรณ์ ชื่อเพลง : เพลงสวรรค์สวิง ผู้ขับร้อง : ศรีสุดา รัชตะวรรณ วงดนตรี : วงดนตรีสุนทราภรณ์ ชื่อเพลง : เพลงพรานล่อเนื้อ ผู้ขับร้อง : วินัย จุลบุษปะ ผู้ประพันธ์คำร้อง : แก้ว อัจฉริยะกุล วงดนตรี : วงดนตรีสุนทราภรณ์ ชื่อเพลง : เพลงรำเทียน” ขับร้องโดย ผู้ขับร้อง : ควินนี่ และเพ็ญศรี พุ่มชูศรี วงดนตรี : วงดนตรีกรุงเทพสวิง ชื่อเพลง : เพลงฝนจ๋าฝน ผู้ขับร้อง : เลิศ ผสมทรัพย์ และศรีสุดา รัชตะวรรณ วงดนตรี : วงดนตรีสุนทราภรณ์ ความยาว : 46.40 นาที รายละเอียด : เพลงแจ๊สมีหลายประเภท ได้แก่ เพลงแจ๊สประเภทชาร์ลตั้น เพลงแจ๊สประเภทดิกซี (Dixieland Jazz) เพลงแจ๊สประเภทสวิง (Swing) เพลงแจ๊สประเภทบลู เป็นต้น ลักษณะสำคัญของเพลงแจ๊สคือ บรรเลงด้วยวงบิ๊กแบนด์ขนาดใหญ่ ใช้เครื่องเป่าเป็นแกนสำคัญ ได้แก่ ทรัมเป็ต ทรอมโบน แซกโซโฟน คลาริเน็ต เครื่องเคาะจังหวะ ได้แก่ กลอง เปียโนเป็นเครื่องดีดอย่างหนึ่งของคนไทย แต่แท้จริงถือเป็นเครื่องเคาะอย่างหนึ่งของฝรั่ง ดนตรีแจ๊สเข้าตั้งแต่สมัยปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) แต่ยังไม่แพร่หลายเนื่องจากหาคนเป่าเครื่องเป่าเก่งๆ ยาก จนกระทั่งหลังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงได้รับนักดนตรีจากประเทศฟิลิปปินส์เข้ามา มาแยกเสียงประสานให้กับดนตรี “คีติ คีตากร” ซึ่งได้รับพระราชทานชื่อและนามสกุล เป็นชาวฟิลิปปินส์โดยกำเนิด เดิมชื่อ Melanio Flores เข้ามาเล่นดนตรีแจ๊สให้กับวงสุนทราภรณ์ จนมีชื่อเสียงมาก “เพลงเหมันต์สวิง” ขับร้องโดย จันทนา โอบายะวาทย์ วงดนตรีสุนทราภรณ์ เป็นเพลงแจ๊สในลักษณะสวิง บันทึกเสียงประมาณปี พ.ศ. 2493-2495 บริษัทแผ่นเสียงโคลัมเบีย หน้าสีม่วง “เพลงสายฝนสวิง” ขับร้องโดย เพ็ญศรี พุ่มชูศรี ประพันธ์ทำนองโดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระราชนิพนธ์ขึ้นเมื่อปี 2489 ในจังหวะสโลว์ ต่อมาเปลี่ยนเป็นจังหวะสวิง โดยคณะสุนทราภรณ์ เรียกว่า ”เพลงสายฝนสวิง” บันทึกเสียงกับห้างแผ่นเสียงโคลัมเบีย ของกมลสุโกศล ประมาณปี พ.ศ. 2493-2495 เพลงสายฝนบันทึกเสียงครั้งแรกกับห้างนำไทย เป็นแผ่นเสียง His Master Voice หน้าสีเขียว ต่อมาบันทึกครั้งที่ 2 กับ ห้างแผ่นเสียงโคลัมเบียเป็น “เพลงสายฝนสวิง” เพ็ญศรี พุ่มชูศรี ร้องทั้งสองครั้ง และมีการน้ำไปขับร้องกันอีกมาก ทั้งวงกองทัพอากาศ วงกองทัพบก และอื่นๆ อีกมาก ผู้ที่ร้องเพลงพระราชนิพนธ์มากที่สุดคือ สวลี ผกาพันธุ์ เพลงแจ๊สมีด้วยกันหลายค่าย วงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ วงโฆษณาสาร ก็มีวงดนตรีกรุงเทพสวิง ซึ่งตั้งใจให้เป็นวงดนตรีบรรเลงเพลงเต้นรำโดยเฉพาะ จะมีนักดนตรีที่มาจากประเทศฟิลิปปินส์ซึ่งเก่งทางดนตรีแจ๊สร่วมด้วย นักร้อง เช่น เพ็ญแข กัลย์จาฤก “เพลงเกลือจิ้มเกลือ” ขับร้องโดย เพ็ญแข กัลย์จาฤก และอุโฆษ จันทร์เรือง วงดนตรีกรุงเทพสวิง “เพลงเกี้ยวผิด” ขับร้องโดย บุญเลิศ เสมาชัย และชวลี ช่วงวิทย์ วงดนตรีกรุงเทพสวิง “เพลงไร้อาวรณ์” วงดนตรีสุนทราภรณ์ “เพลงสวรรค์สวิง” ขับร้องโดย ศรีสุดา รัชตะวรรณ วงดนตรีสุนทราภรณ์ ให้อารมณ์ในการเดี่ยวและจังหวะลีลาเพลงแจ๊สระยะที่ 2 ของประเทศไทย ซึ่งมีการพัฒนามากแล้ว ทั้งผู้ที่บรรเลงรายชิ้นเครื่องดนตรี ของวงดนตรีสุนทราภรณ์ “เพลงพรานล่อเนื้อ” ขับร้องโดย วินัย จุลบุษปะ ประพันธ์คำร้องโดย แก้ว อัจฉริยะกุล แปลงมาจากโคลงสี่สุภาพของศรีปราชญ์ ที่ว่า เจ้าอย่าย้ายคิ้วให้ เรียมเหงา ดูดุจนายพรานเขา ล่อเนื้อ จะยิงก็ยิงเอา อกพี่ ราแม่ เจ็บไป่ปานเจ้าเงื้อ เงือดแล้วราถอย “เพลงรำเทียน” ขับร้องโดย ควินนี่ และเพ็ญศรี พุ่มชูศรี วงดนตรีกรุงเทพสวิง นำทำนองมาจากประเทศมาเลเซีย มีนักร้องมาเลเชีย “ควินนี่” ขับร้องด้วย โดยร้องเป็นภาษาของควินนี่ก่อน แล้วขับร้องตามโดย เพ็ญศรี พุ่มชูศรี เป็นเพลงแจ๊สในจังหวะสวิง วงดนตรีสนทราภรณ์ “เพลงฝนจ๋าฝน” ขับร้องโดย เลิศ ผสมทรัพย์ และศรีสุดา รัชตะวรรณ วงดนตรีสุนทราภรณ์ หัวเรื่อง : เพลงแจ๊ส หัวเรื่อง : เพลงไทยสากลจากอดีต ตอนที่ 131 หัวเรื่อง : เพลงไทยสากลระยะแรกเริ่ม หัวเรื่อง : รายการเพลงไทยสากลจากอดีต ตอนที่ 131 ผู้จัดรายการ : พูนพิศ อมาตยกุล สถานที่จัดเก็บ : https://sirindhornmusiclibrary.li.mahidol.ac.th/thai_contemporary_mu/plengthaisakol-131/